Monday, October 12, 2009

ยึกๆยักๆ ตอนที่๒

อุปนิสัยที่มีมาแต่กำเนิดหรือสันดานของข้าพเจ้านั้นจัดเป็นพวกยึกๆยักๆ เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านมีสันดานแบบเดียวกับข้าพเจ้า ประเทศไทยจึงไม่วัฒนาผาสุกอย่างที่เราต้องการเสียที

ยึกยัก (พจนานุกรมราชบัณฑิยสถาน)

ความหมาย

ก. ขยุกขยิก, ยักไปยักมา, เช่น นั่งทำตัวยึกยัก. ว. อาการที่ลังเลไม่กล้าตัดสินใจ, กระยึกกระยัก ก็ว่า.

มันก็เป็นเสียอย่างนี้ จึงบ่นกันว่า ทำไมทำไม ถ้าถ้า ไว้ก่อนไว้ก่อน ดูก่อนดูก่อน ข้าพเจ้าเคยเห็นป้ายประกาศหาเสียงของนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดระยอง เขียนตัวโตๆว่า “บอกหนึ่งครั้ง ดีกว่าบ่นร้อยครั้ง” เข้าใจว่าผู้ลงประกาศคงรำคาญอาการยึกๆยักๆเช่นกัน

สาเหตุที่ข้าพเจ้ายึกๆยักๆเพราะไม่ต้องการผลร้ายของสิ่งที่คิดจะทำ อันเรื่องราวต่างๆในโลกปัจจุบันนั้น มีหลายอย่างที่ความเสี่ยงน้อย แต่ความคิดของข้าพเจ้าส่วนใหญ่โน้มเอียงไปอีกทางมากกว่า ความจริงเรื่องที่กำลังเขียนอยู่นี้ลึกซึ้งทีเดียว มันเป็นเรื่องเกิดมาทำไม ถึงตรงนี้นึกขึ้นได้ถึงหนังจักรๆวงศ์ๆเรื่องหนึ่ง ตัวละครโหดเหี้ยมตัวหนึ่งชอบตะโกนว่า “อยู่ไปทำไม ตายเสียดีกว่าอยู่” ตะโกนไปทั้งเรื่องเอาสะใจเข้าว่า ตอนนั้นข้าพเจ้าฟังแล้วขำ ตอนนี้ก็ยังขำอยู่ แต่ก็คิดด้วยว่ามันเป็นปริศนาธรรมเหมือนกันนี่นะ

หนังสงครามฉากที่ยกพลบุกตะลุยดงศัตรู พวกที่ยึกยักจะโดนยิงตายตรงนั้นทุกคน พระเอกของเราไม่ยึกยัก จึงรอดตายเสมอ แต่บางเรื่องพระเอกก็ตายตอนจบเช่นกัน

การเริ่มต้นทำอะไรที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลยเป็นเรื่องสนุกตรงที่เริ่มต้นตรงไหนก็ได้ จะหาข้อมูล จะหยิบจะอ่านอะไรก็โยงเข้าเรื่องของเราได้หมด ขอเชิญชวนผู้อ่านทุกท่านมาเริ่มต้นทำอะไรที่ไม่มีความรู้เรื่องนั้นเลยกันเถิด เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าสนุกและดีกว่าเรื่องที่มีความรู้มาอยู่แล้วมาก เรื่องนี้ถ้ามีโอกาสคงได้อธิบายยืนยันความเชื่อกันอีก

จากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสเกษตรกรมาบ้างนั้น พบว่าเกษตรกรแต่ละท่านก็ยึกๆยักๆเหมือนกัน เมืองไทยมีกรมวิชาการเกษตรเป็นเจ้าภาพเรื่องความรู้ทางด้านการเกษตร ศึกษาเพียงผ่านๆก็เห็นว่าเรามีฐานความรู้และงานวิจัยที่ก้าวหน้า แต่ทำไม Productivity ของเกษตรไทยจึงต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นนี้ ข้าพเจ้าเดาเอาว่ามีความรู้แต่ไม่นำไปใช้เสียมากกว่า (Poor Implementation)

ทำไมจึงไม่นำไปใช้? ทำไมจึงไม่ใช้ความรู้ที่ก้าวหน้า? ข้าพเจ้าไม่รู้และไม่ขอเดาต่อไป ขอจบเช่นนี้เพื่อไปหาความรู้เพิ่มเติมก่อน

เขียน ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๒ ที่เชียงใหม่พลาซ่า

No comments:

Post a Comment